"คาโมมายล์" สรรพคุณล้ำค่าจากธรรมชาติ

คาโมมายล์ (Chamomile) เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้งานมายาวนานในประวัติศาสตร์การแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะในทวีปยุโรป สายพันธุ์ที่นิยมใช้ทางการแพทย์มี 2 ชนิดหลัก ได้แก่:

- German Chamomile (Matricaria recutita)
- Roman Chamomile (Chamaemelum nobile)

ในประเทศไทย มีการนำดอกคาโมมายล์มาปลูกมากที่สุดอยู่ทางภาคเหนือได้แก่ จังหวัดเชียงราย เช่น สวนต้นรุ้ง ตั้งอยู่อำเภอเมือง ปลูกคาโมมายล์อินทรีย์ ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร โดยเริ่มปลูกและเก็บดอกปีละ1ครั้ง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี

องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญ                                                             

1. สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)                                                       

- Apigenin - มีฤทธิ์คลายกังวลและช่วยให้นอนหลับ

- Quercetin - มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ

- Luteolin - ช่วยต้านการอักเสบ

2. น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils)

- Bisabolol - มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อ

- Chamazulene - ให้สีน้ำเงินและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

- Farnesene - มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย

ประโยชน์ทางการแพทย์ที่ได้รับการพิสูจน์ 

1. ระบบประสาทและสมอง

**การนอนหลับ**

- สาร apigenin จับกับตัวรับ GABA ในสมอง ช่วยลดการทำงานของระบบประสาท

- การศึกษาในผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับ พบว่าการดื่มชาคาโมมายล์ช่วยลดเวลาในการเข้านอนได้ 15-20 นาที

- ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนโดยรวม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

**ความเครียดและวิตกกังวล**

- ลดระดับฮอร์โมนความเครียด (Cortisol)

- การศึกษาในผู้ป่วยโรควิตกกังวลทั่วไป (GAD) พบว่าช่วยลดอาการได้อย่างมีนัยสำคัญ

2. ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ

 **การต้านการอักเสบ**

- ยับยั้งเอนไซม์ COX-2 ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ

- ลดการผลิตสารก่อการอักเสบ เช่น TNF-α และ IL-6

- เพิ่มการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน NK cells

 **โรคผิวหนัง**

- รักษาโรคผิวหนังอักเสบ (Eczema)

- ลดอาการแพ้และผื่นคัน

- เร่งการหายของแผลและรอยแดง

3. ระบบทางเดินอาหาร

**การย่อยอาหาร**

- กระตุ้นการผลิตน้ำย่อยและน้ำดี

- ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร

- บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง

 **โรคกระเพาะและลำไส้**

- ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร

- ลดการอักเสบในลำไส้ใหญ่

- บรรเทาอาการโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)

4. สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

- ลดระดับคอเลสเตอรอล LDL

- ช่วยควบคุมความดันโลหิต

- ต้านการอักเสบในหลอดเลือด

5. สุขภาพสตรี

 **ประจำเดือน**

- ลดอาการปวดประจำเดือน

- บรรเทาอาการหงุดหงิดก่อนมีประจำเดือน

**วัยทอง**

- ลดอาการร้อนวูบวาบ

- ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน

การใช้งานในรูปแบบต่างๆ

1. **การรับประทาน**

- ชาชง (2-3 กรัมต่อน้ำร้อน 150-250 มล.)

- แคปซูลสกัด (300-400 มก. วันละ 3 ครั้ง)

- ทิงเจอร์ (1-4 มล. วันละ 3 ครั้ง)

2. **การใช้ภายนอก**

- ครีมทาผิว (ความเข้มข้น 3-10%)

- น้ำมันนวด (ผสมน้ำมันพาหะ 2-5%)

- การพอกหน้า (ผงคาโมมายล์ผสมน้ำผึ้ง)

- น้ำประคบ (ชงเข้มข้นสำหรับประคบ)

3. **การอบไอน้ำ**

- ใช้ดอกแห้ง 3-5 กรัมต่อน้ำร้อน 1 ลิตร

- เหมาะสำหรับบรรเทาอาการระบบทางเดินหายใจ

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

1. **ปฏิกิริยากับยา**

- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Warfarin, Aspirin)

- ยากล่อมประสาท

- ยาคุมกำเนิด

- ยาลดความดัน

2. **กลุ่มเสี่ยง**

- ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด (ควรหยุดใช้ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด)

- ผู้ที่มีประวัติภาวะความดันต่ำ

- ผู้ที่มีภาวะแพ้ละอองเกสรง่าย

คำแนะนำในการเลือกซื้อและเก็บรักษา

1. **การเลือกซื้อ**

- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองคุณภาพ

- ตรวจสอบวันหมดอายุ

- สังเกตสีและกลิ่นของดอกแห้ง

2. **การเก็บรักษา**

- เก็บในภาชนะทึบแสง ปิดสนิท

- เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิห้อง

- หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดดโดยตรง

 งานวิจัยล่าสุด

1. Journal of Clinical Medicine (2023) - ประสิทธิภาพในการรักษาโรควิตกกังวล

2. Phytomedicine International (2022) - การศึกษาผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

3. Nutrients Journal (2022) - ผลต่อคุณภาพการนอนหลับ

4. International Journal of Molecular Sciences (2023) - กลไกการต้านการอักเสบ

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรใดๆ

ขอขอบคุณ

สวนต้นรุ้ง เชียงราย

เรื่อง&ภาพ: eMag