กีดกัน! ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ร่วมบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด 19

คำสั่งนายกเมิน! ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ร่วมบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด 19

นับเป็นประเด็นที่น่าสนใจในช่วงเวลาที่โรคโควิด 19 ระบาดหนักในระลอก 3 โดย นายกรัฐมนตรีและศบค. มิได้นำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกเข้ามาร่วมบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด 19 ร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิดตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน 

กระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา พลเรือเอก ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนคนไทยทุกคน เรื่อง การกีดกันการนําภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมาใช้ในการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 โดยมีเนื้อหาสำคัญตอนหนึ่งในจดหมายเปิดผนึก กลายเป็นประเด็นคำถาม เหตุใด? จึงกีดกันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก รวมทั้งไม่ส่งเสริมการใช้ตำรับยาสมุนไพรและองค์ความรู้แพทย์พื้นบ้านมาใช้ร่วมบูรณาการณ์แก้ไขสถานการณ์โควิด 19 

“ ผมเห็นใจ เข้าใจ และให้กําลังใจรัฐบาลที่พยายามแก้ปัญหาอย่างสุดความสามารถ ผมเคยศรัทธา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยรัฐบาล คสช. ที่ท่านกล่าวในที่สาธารณะหลายครั้งเรื่องส่งเสริมสนับสนุนการแพทย์แผนไทยสมุนไพรไทยสู่สากล มีเขียนในแผน ยศ.ชาติ แผนปฏิรูปประเทศและอีกหลายๆ แผน ฝันกระทั่งประเทศไทยจะเป็น Medical Hub แต่เมื่อถึงจังหวะที่ควรใช้อย่างยิ่งท่านอาจลืมคําพูดของตนเองโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่ผมไม่สามารถยอมรับได้คือคําสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 7/2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ลงนามเมื่อ 5 พ.ค. 64 คําสั่งนี้มีกรรมการรวมทั้งสิ้น 36 คน มีหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุขเกือบทั้งหมดแต่ไม่มีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยโดยตรงและเป็นหน่วยงานที่ได้ผลักดันการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร อย่างจริงจังจนประสบความสําเร็จแล้วการบูรณาการด้านสาธารณสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างไร"

อ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับเต็มได้ที่นี่ 

คงต้องรอดูกันว่า จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องออกมาผลักดันให้นำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก รวมทั้งหมอพื้นบ้าน มาร่วมบูรณาการกับการแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์โควิด 19 ให้คลี่ลายลง ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ นำพาประเทศฝ่าวิกฤตโควิด 19ไปหรือไม่?? คงต้องรอดูกันต่อไป...