คันทรี่ร็อกจากที่ราบสูง

The Ozark Mountain Daredevils คันทรี่ร็อกจากที่ราบสูง

Story: Vinyl Junkie

The Ozark Mountain Daredevils เป็นชื่อวงดนตรีที่แปลกมากวงหนึ่งที่รู้จัก...แต่พอรู้จักแล้วก็จำได้แม่นยำก่อนที่จะเคยได้ฟังผลงานของพวกเขาเสียอีก

ผมรู้จักวงดนตรีชื่อยาวนี้ครั้งแรกจากข้อมูลที่อ่านเจอในหนังสือ Encyclopedia of Rocks ตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นชอบฟังเพลงสากลและสนใจใคร่รู้ในยุคที่โซเชี่ยลออนไลน์ยังมาไม่ถึง มีเวลาว่างก็พลิกดูข้อมูลวงดนตรีต่างๆ ไปเรื่อยๆ พวกตำราเอนไซโคพีเดียจะไล่ชื่อวงดนตรีไปตามตัวอักษร ทีนี้พอไปถึงอักษร O ในลำดับท้ายๆ ก็เจอชื่อของ The Ozark Mountain Daredevils ขึ้นมา เป็นชื่อที่ยาวมาก แถมภาษาแปลก คำสุดท้ายยิ่งแปลกเข้าไปอีก...เป็นยังไงกันนะวงนี้

ใต้หัวชื่อวงมีภาพหน้าปกอัลบั้มของพวกเขาประกอบให้เห็นด้วย ภาพปกอัลบั้มนั้นสะดุดตาเรียกความสนใจได้พอๆ กับชื่อวง เป็นภาพวาดของรถยนต์รุ่นเก่าลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบและขุนเขา เห็นคนขับใส่สูทโผล่ออกมาจากหน้าต่างด้วยท่าทางตกใจ ชื่ออัลบั้มตั้งตรงตัวตามภาพ The Car Over the Lake Album...เห็นแล้วชอบใจทั้งชื่อวงและอัลบั้ม

จากชื่อวงและภาพปกอัลบั้มที่เห็นชวนให้สนใจและจดจำวง The Ozark Mountain Daredevils ได้แม่นยำตั้งแต่นั้น...และตั้งใจหาผลงานมาฟัง แน่ละ! ย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับวงร็อกนอกกระแสแบบนี้

พอได้ฟังผลงานของพวกเขาก็ติดใจดนตรีคันทรี่ร็อกของ The Ozark Mountain Daredevils กับซาวด์ดนตรีที่ให้บรรยากาศแบบท้องทุ่งบ้านนอกคอกนาจริงๆ ท่วงทำนองดนตรีสดใสสนุกสนานเป็นกันเอง แถมยังเน้นเครื่องดนตรีพื้นบ้านช่วยสร้างสีสัน จนทำให้เป็นขวัญใจคนอเมริกันลูกทุ่งในช่วงยุค 70s ทั้งที่มีเพลงดังที่ติดชาร์ตท๊อปฮิตในระดับเมนสตรีมอยู่เพียงเพลงเดียวคือ Jackie Blue แถมยังฟังดูต่างไปจากเพลงอื่นๆ ด้วย

สำหรับชื่อวง Ozark Mountain พอจะสื่อถึงถิ่นที่มาของพวกเขาได้ว่ามาจากรัฐมิสซูรี่ทางตอนใต้ของสหรัฐ เพราะ Ozark Mountain เป็นชื่อเทือกเขาบนที่ราบสูงทางตอนกลางของประเทศที่ครอบคลุมพื้นที่ของรัฐมิสซูรี่, อาแคนซอร์, โอคลาโฮม่า และแคนซัส ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาต้องการบอกถึงถิ่นฐานของตน แต่คำว่า Daredevils พวกท้ายด้วยนั้นเป็นชื่อที่ John Dillon นักร้อง มือกีต้าร์ที่เล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านหลายอย่าง และเป็นเสมือนหัวหน้าวง หยิบมาจากประโยคยาวๆ ว่า “Cosmic Corn Cob & His Amazing Ozark Mountain Daredevils” แล้วทางวงตัดทอนให้สั้นลงเหลือแค่ The Ozark Mountain Daredevils

John Dillon และ Randle Chowning สองแกนนำของวงมาจากเมืองสปริงฟิล ในรัฐมิสซูรี่ พวกเขารวบรวมเพื่อนๆ ตั้งวงดนตรีเล่นตามคลับตั้งแต่ตอนต้นยุค 70s พร้อมกับเปลี่ยนชื่อวงนับไม่ถ้วน ก่อนมาลงเอ่ยที่ The Ozark Mountain Daredevils ราวปี 1972 พร้อมกับทำเดโมส่งไปตามสังกัดแผ่นเสียงต่างๆ จนกระทั่งได้เซ็นสัญญากับ A&M Records และเดินทางไปบันทึกเสียงอัลบั้มแรกถึงอังกฤษ ภายใต้การดูแลการผลิตของ David Anderle แมวมองผู้ดึงวง Eagles มาเข้าสังกัด และ Glyn Johns โปรดิวเซอร์ของ The Eagles นั่นเอง เรียกว่าทางต้นสังกัดให้ความสำคัญกับ The Ozark Mountain Daredevils อย่างมากทีเดียวในช่วงยุคทองของดนตรีคันทรี่ร็อก

The Ozark Mountain Daredevils มีอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวงออกมาในปี 1973 ภาพปกที่สวยงามด้วยรูปของผ้าห่มนวมที่เย็บต่อกันเป็นลายดอก ทำให้แฟนเพลงมักเรียกผลงานชุดนี้ว่า The Quilt Album สะท้อนให้เห็นถึงสไตล์ดนตรีคันทรี่ร็อกที่เรียบง่ายและติดดินของพวกเขาอย่างชัดเจน สามารถให้คำจำกัดความได้ว่าเป็นการนำดนตรีร็อก คันทรี่ บลูกราส และป๊อบมาผสมผสานได้อย่างลงตัวและฟังง่ายขึ้น โดดเด่นด้วยเสียงดนตรีไฟฟ้ากลมกลืนไปกับเครื่องดนตรีอะคูสติกพื้นบ้าน ส่งผลให้อัลบั้มแรกของ The Ozark Mountain Daredevils ได้รับตอบรับด้วยดี พร้อมกับมีเพลง If You Wanna Go to Heaven เป็นเพลงฮิตเพลงแรก ขณะเดียวกันชุดนี้อัดแน่นไปด้วยเพลงคันทรี่ร็อกดีๆ อย่าง Country Girl, Chicken Train และ Colorado Song

หลังจากนั้น The Ozark Mountain Daredevils มีอัลบั้มชุดที่ 2 It’ll Shine When It Shines ตามออกมาติดๆ ในปีต่อมา คราวนี้กลับมาบันทึกเสียงที่รัฐมิสซูรี่บ้านเกิด มี Anderle เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ Glyn Johns เหมือนเดิม ด้วยซาวด์ดนตรีคันทรี่ร็อกแบบพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ และมีเพลงฮิต Jackie Blue จากเสียงร้องของ Larry Lee มือกลอง ขึ้นถึงอันดับที่ 3 ในชาร์ตเพลงป๊อบอย่างเหนือความคาดหมาย ท่วงทำนองที่โดดเด่นและท่อนประสานที่ติดหูง่ายในซาวด์แบบเพลงป๊อบ ส่งให้เพลงนี้เป็นเพลงดังที่สุดของ The Ozark Mountain Daredevils ช่วยให้อัลบั้ม It’ll Shine When It Shines ได้รับความนิยมขึ้นถึงอันดับที่ 19 และเป็นอันดับสูงสุดที่พวกเขาทำได้ทั้งซิงเกิ้ลและอัลบั้ม นอกจากนี้ยังมีเพลงดีๆ อย่าง You Made It Right, Walkin’ Down The Road

ทีนี้ก็มาถึงอัลบั้มปกแนวๆ ที่กล่าวไว้ตอนต้นสำหรับ The Car Over the Lake Album ผลงานชุดที่ 3 ในปี 1975 อัลบั้มชุดนี้ย้ายไปบันทึกเสียงที่แนชวิลย์ มี David Anderle เป็นโปรดิวเซอร์เพียงคนเดียว ผลงานชุดนี้ยังได้รับความนิยมจากแฟนเพลงเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่มีเพลงฮิตที่ติดหูเหมือนเพลง Jackie Blue ในอัลบั้มที่แล้ว อย่างที่บอกไป เพลง Jackie Blue มีความเป็นป๊อบด้วยจังหวะสนุกๆ ต่างไปจากเพลงคันทรี่ร็อกของวงอย่างชัดเจน และเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ The Ozark Mountain Daredevils ยากจะทำได้เช่นนั้นอีก เรียกว่าเป็น One Hit Wonder ของพวกเขาก็ได้ ดังนั้นอัลบั้ม The Car Over the Lake Album จึงเสมือนเป็นผลงานที่ประคองชื่อเสียงของ The Ozark Mountain Daredevils เมื่อมันขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 57 ในชาร์ตบิลบอร์ด

ในปี 1976 The Ozark Mountain Daredevils ก้าวออกไปทัวร์ยุโรปเพื่อสร้างชื่อเสียงในแดนไกล แล้วจึงกลับมาบันทึกอัลบั้มชุดที่ 4 โดยปราศจาก Chowning ที่แยกทางไปเป็นศิลปินเดี่ยว ทีแรกทางวงตั้งใจจะใช้ชื่ออัลบั้มว่า Nucleard Fishin’ แต่ต้องเปลี่ยนมาเป็น Men From Earth ตามคำแนะนำของต้นสังกัด โปรดิวเซอร์ยังเป็นหน้าที่ของ Anderle ภาพปกเป็นรูปของชาวไร่ปศุสัตว์กับม้าของเขา ขณะที่ซาวด์ดนตรียังเป็นคันทรี่ร็อกตามแนวทางของวง อย่างเพลงเด่นๆ Fly Away Home, You Know Like I Know และ Homemade Wine

อัลบั้มชุดต่อมา Don’t Look Down ผลงานลำดับที่ห้าในปี 1977 มีภาพสมาชิกของ The Ozark Mountain Daredevils ขึ้นหน้าปกเป็นครั้งแรก พวกเขาเปลี่ยนโปรดิวเซอร์เป็น David Kershenbaum พร้อมกับซาวด์ดนตรีที่หันเข้าหาตลาดเพลงกระแสหลักมากขึ้น เพิ่มเสียงดนตรีไฟฟ้าเข้ามาแทนที่อะคูสติก แต่กลับไม่สามารถสร้างความสำเร็จให้พวกเขาได้ตามที่ต้องการ เมื่อเป็นอัลบั้มแรกที่ไม่ติดท๊อปฮันเดรด ไปหยุดแค่อันดับ 132 เท่านั้น ตามมาด้วยอัลบั้มแสดงสด It’s Alive ออกมาขัดตาทัพในปี 1978

ถึงอัลบั้มหลังๆ จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนผลงานแรกๆ ในช่วงต้นยุค 70s การแสดงของ The Ozark Mountain Daredevils ยังได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงด้วยดีเสมอ โดยเฉพาะตามเทศกาลคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ขณะเดียวกันสถานการณ์ของวงไม่ค่อยดีนัก เมื่อถูกบอกเลิกสัญญาจาก A&M Records ต้องย้ายไปอยู่กับ Columbia Records และมีอัลบั้ม Ozark Mountain Daredevils ออกมา ในช่วงขาลงของคันทรี่ร็อกเมื่อเริ่มเข้าสู่ทศวรรษที่ 80s แม้จะได้โปรดิวเซอร์มือเก๋าอย่าง John Boylan มาช่วยงาน และพวกเขาพยายามปรับซาวด์ดนตรีให้หนักแน่นในทางร็อกมากขึ้นเช่นเดียวกับภาพสมาชิกบนปกอัลบั้ม แต่ก็เหมือนผิดที่ผิดทาง ไม่สามารถเรียกความนิยมกลับมาได้อีก ผลงานชุดนี้จึงเป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายของ The Ozark Mountain Daredevils ก่อนจะพวกเขาจะกลับมาออกอัลบั้ม 13 ท้ายสุดจริงๆ ในปี 1997

แม้จะไม่มีสตูดิโออัลบั้มออกมา John Dillon และสมาชิก The Ozark Mountain Daredevils ก็ยังร่วมงานแสดงดนตรีกันอย่างต่อเนื่อง และมีผลงานแสดงสดออกมาเป็นระยะ แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีแฟนเพลงติดตามอย่างเหนียวแน่น สมกับเป็นตำนานคันทรี่ร็อกจากยุค 70s อีกวงหนึ่ง

                             .........................................